Thursday 28 October 2010





''Oliebollen '' (เอ๊าลี่บ่อลเหล่น) ขนมชาวดัชท์คล้ายๆมัชกิ้นแต่ใส่เบียร์ ลูกเกด ขายในรถประดับไฟสว่าง ข้างโบสถ์ทะมึนกลางเมือง Delft ฮอลแลนด์"
คล้ายๆกับ ขายหมดแล้วก็ลากกลับบ้านเลย........



Wednesday 27 October 2010

ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับฝรั่งเศส สมัยกรุงรัตนโกสินทร์


ตั้งแต่สมัยอยุธยาตลอดมาจนถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ประเทศลาวและเขมรเคยเป็นประเทศราชของไทย บางคราวในห้วงเวลาดังกล่าวเมื่อไทยอ่อนแอ พม่าซึ่งเป็นประเทศข้างเคียงทางทิศตะวันตกและญวนทางทิศตะวันออก มีกำลังและอำนาจมากขึ้น ลาวก็จะยอมตกไปอยู่ในอำนาจของพม่าบ้าง และของญวนบ้างตามสภาวะแวดล้อม ส่วนเขมรนั้นบางคราวก็ได้อาศัยกำลังหนุนจากญวน และตกอยู่ใต้อิทธิพลของญวน

ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อปี พ.ศ.๒๓๙๙ฝรั่งเศสได้ส่งเมอซิเออร์ เดอมองติญี (Monsieur de Montigny) เป็นราชฑูตเข้ามาเจรจาทำสัญญาทางพระราชไมตรี และการค้ากับไทย โดยยึดถือแนวทางการทำสัญญาเช่นเดียวกับอังกฤษ ที่ได้ทำไว้กับไทยเมื่อปี พ.ศ.๒๓๙๘

ต่อมาเมื่อปี พ.ศ.๒๔๐๑ ได้เริ่มมีกงสุลฝรั่งเศสประจำกรุงเทพ ฯ กงสุลฝรั่งเศสคนแรกคือ คองต์ เดอ คาสเตลโน (Conte de Castenau)

ในปี พ.ศ.๒๔๑๐ ไทยได้ส่งพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ (วร บุนนาค) ไปทำสัญญากับฝรั่งเศสเรื่องเมืองเขมรกับฝรั่งเศสที่กรุงปารีส ตามสัญญาฉบับนี้ไทยยอมรับรู้ว่าเขมรอยู่ใต้ความคุ้มครองของฝรั่งเศส ส่วนเมืองพระตะบองและเสียมราฐนั้น ฝรั่งเศสยอมให้ไทยปกครองตามเดิม ต่อมาไทยกับฝรั่งเศสเริ่มแบ่งเขตแดนไทยกับเขมรบริเวณทะเลสาบกับแม่น้ำโขง ฝ่ายไทยต้องการเมืองจงกัล เมืองโซเตียน เมืองมโนไพร และเมืองท่าราชปริวัตรเป็นของไทย

ในปี พ.ศ.๒๔๑๓ ไทยได้ส่งพระยาราชวรากูล (บุญรอด กัลยาณมิตร) ไปเจรจากับฝรั่งเศสที่ไซ่ง่อน เกี่ยวกับปัญหาเขตแดนและการภาษีจับปลาในทะเลสาบ การเจรจาปัญหาเขตแดนไม่คืบหน้านัก เนื่องจากฝรั่งเศสเริ่มทำสงครามกับเยอรมนี


ในปี พ.ศ.๒๔๒๘ ไทยยกกำลังไปปราบฮ่อ โดยมีเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรีเป็นแม่ทัพ ฝรั่งเศสได้กล่าวหาไทยว่าถือโอกาสรุกล้ำเข้าไปในดินแดนลาว ซึ่งอยู่ในอำนาจของญวน ซึ่งฝรั่งเศสกำลังจัดการปกครองเมืองญวนอยู่

ต่อมาไทยกับฝรั่งเศสได้ตกลงทำอนุสัญญาเมืองหลวงพระบาง โดยมี ม.ปาวี (Auguste Pavie) เป็นไวซ์กงสุล (Viee Consul) ประจำเมืองหลวงพระบาง เพื่อทำหน้าที่ดูแลความเคลื่อนไหวของไทยในดินแดนลาว และสำรวจการสร้างทางระหว่างตังเกี๋ยกับแม่น้ำโขง




ม.ปาวี (Auguste Pavie)


ในปี พ.ศ.๒๔๓๐ ไทยกับฝรั่งเศสได้เจรจาเรื่องปัญหาเขตแดนระหว่างไทยกับญวน โดยตั้งกรรมการผสม โดยมี ม.ปาวี เป็นหัวหน้าคณะ ออกทำการสำรวจแผนที่และภูมิประเทศชายแดน และในปีต่อมาไทยกับฝรั่งเศสได้ตกลงกันว่า กองทหารไทยจะไม่เข้าไปในแคว้นสิบสองจุไทย ส่วนในแคว้นหัวพันทั้งห้าทั้งหก และแคว้นพวน คงให้อยู่ในสถานะเดิมคือ ทหารฝ่ายใดตั้งอยู่ที่ใดก็ให้คงอยู่อย่างนั้น ห้ามรุกล้ำเขตซึ่งกันและกัน จนกว่าจะได้ทำความตกลงกันที่กรุงเทพ ฯ ส่วนทางด้านคำเกิด คำม่วน กองทหารไทยยกไปตั้งจนถึงเขตแดนญวน ม.ปาวี ก็ได้ทำความตกลงกับข้าหลวงเมืองหนองคาย ให้ต่างฝ่ายต่างรักษาสถานะเดิม คือให้ฝ่ายไทยอยู่ที่คำม่วน ฝรั่งเศสอยู่บ้านนาเป

ในปี พ.ศ.๒๔๓๒ ม.ปาวี ได้รับแต่งตั้งให้เป็นไวซ์กงสุลฝรั่งเศสประจำกรุงเทพ ฯ และได้เลื่อนฐานะเป็นราชฑูตฝรั่งเศสประจำกรุงเทพ ฯ เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๔๓๕

ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๓๕ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรฝรั่งเศสชื่อ ม.เดอลองดล์ ได้เสนอต่อรัฐสภาฝรั่งเศสให้รัฐบาลฝรั่งเศสใช้กำลังกับไทยในปัญหาดินแดน ซึ่งเคยเป็นของญวนและเขมร รัฐสภาฝรั่งเศสเห็นชอบ และให้รับดำเนินการต่อไป จากนั้นฝรั่งเศสได้ยกกำลังทหารเข้ามาประชิดฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง และส่งเรือปืนลูแตงเข้ามายังกรุงเทพ ฯ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของการใช้กำลัง ในกรณีพิพาทระหว่างไทยกับฝรั่งเศส ใน ร.ศ.๑๑๒


***************************************************************


Sunday 24 October 2010

ระวัง ! ภัยร้ายรองเท้าส้นสูง






ไม่ว่าวันเวลาจะทำให้แฟชั่นต่างพากันหมุนเวียนเปลี่ยนสลับกันไป แบบมาไวไปไวแค่ไหนก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่คู่กับผู้หญิงในทุกยุคทุกสมัยก็คือ "รองเท้าส้นสูง"

เพราะรองเท้าส้นสูง คือสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างบุคลิกของผู้สวมใส่ได้ทุกคน ไม่ว่าคุณจะมีปัญหารูปร่างเตี้ย หรือว่าอวบอ้วนแค่ไหนก็ตาม จนสาวๆ บางคนติดนิสัยชอบใส่รองเท้าที่มีส้นสูงๆ หากให้เปลี่ยนเป็นมาใส่รองเท้าแบนๆ คงเสียความมั่นใจไปเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม การใส่รองเท้าส้นสูงใช่ว่าจะมีแต่ข้อดีเท้านั้น เพราะการใส่ส้นสูงๆ เป็นเวลานานๆ สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพของคุณได้เช่นกัน

1.กล้ามเนื้อน่องเอ็นร้อยหวาย ในขณะที่สวมใส่รองเท้าส้นสูง คุณสาวๆ ต้องยืนอยู่ในท่าเขย่ง ซึ่งถ้าร่างกายต้องอยู่ในท่านี้เป็นเวลานานๆ จะทำให้กล้ามเนื้อน่องเอ็นร้อยหวายตึง และหดสั้น สังเกตได้จากอาการปวดน่องบ่อยๆ จากการเดิน หรือการเป็นตะคริว

2.โครงสร้างของเท้า เมื่อกล้ามเนื้อเอ็นร้อยหวายหดสั้นอยู่บ่อยๆ จะส่งผลเสียต่อโครงสร้างของเท้า เมื่อยืนด้วยเท้าเปล่าจะเห็นว่าเท้าแบน ทำให้เกิดอาการปวดที่บริเวณอุ้งเท้า และส้นเท้า จนกลายเป็นปัญหาฝ่าเท้าตามมา

3.กระดูกสันหลัง การใส่รองเท้าส้นสูง ทำให้ปลายเท้าส่วนหน้าต้องทำหน้าที่รับน้ำหนักของร่างกายไว้เกือบทั้งหมด เพื่อให้สามารถยึดตัวให้ตั้งตรง และทรงตัวได้ ในขณะเดียวกัน สรีระของร่างกายก็จะปรับให้อวัยวะส่วนหลัง บริเวณช่วงเอวแอ่นไปด้านหลัง ส่งผลให้เกิดอาการตึงของกล้ามเนื้อ จนถึงขั้นปวดหลังในที่สุด



นวัตกรรมล่าสุดในการออกแบบรองเท้าสำหรับคุณผู้หญิง ด้วยเทคโนโลยี adiPRENE' by adidas จาก ร๊อคพอร์ท (Rockport) ซึ่งโครงสร้างของรองเท้าสามารถรองรับแรงกระแทกที่ดกิดบริเวณส้นเท้า พร้อมกับการบุพื้นพิเศษที่รองรับฝ่าเท้าส่วนหน้า ทำให้รู้สึกสบายขณะสวมใส่ และก้าวเดินตลอดทั้งวันได้อย่างมีสไตล์

ผู้ชาย กับมะเร็งเต้านม



อย่าเพิ่งเข้าใจผิดว่านี่เป็นเรื่องของกิ๊ก หรือคนชราที่หมดแรงอัพล้มพับคาอกสาวน้อย แต่มันคือภัยร้ายจากโรคมะเร็งเต้านมในผู้ชาย แม้ว่าสิ่งนี้จะเกิดในเปอร์เซ็นต์ที่น้อยกว่าการค้นพบในกลุ่มผู้หญิง แต่อ่านไว้ก็ได้ประโยชน์หลายเด้งทีเดียวโดยเฉพาะในยุคที่มีพิษภัยมากมายรอบตัวที่ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระและการพัฒนาของเชื้อโรค และนี่คือความจริงที่คุณควรอ่าน

อาการของมะเร็งเต้านมชาย
โรคนี้ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศหญิง (Estrogen) สูงขึ้น, ระดับฮอร์โมนเพศชาย (Androgens) ต่ำลงทำให้มีลักษณะเพศหญิงปนเข้าไป เช่น เต้านมใหญ่ ฯลฯ เป็นหมันจากการไม่มีตัวอสุจิหรือมีตัวอสุจิน้อยมากดังนั้นถ้าใครเข้าข่าย อย่าอาย ควรรีบเข้าตรวจสุขภาพเต้านมโดยละเอียด มะเร็งเป็นโรคที่กำจัดได้ถ้าตรวจพบในระยะแรกๆ ผู้ชายที่เป็นมะเร็งเต้านมมีอายุเฉลี่ยมากกว่าผู้หญิง 7-8 ปี เมื่อรวมกับการพบโรคที่มักจะมาช้าทำให้โอกาสเสียชีวิตจากโรคมากกว่าผู้หญิง เพราะการผ่าตัดจะยิ่งทำได้ยากในอายุที่มากขึ้น อาการที่พบบ่อยที่สุดของมะเร็งเต้านมทั้งในผู้หญิงและผู้ชาย คือ คลำแล้วพบก้อนเนื้อเป็นไต ส่วนใหญ่ไม่มีอาการเจ็บ

ปัจจัยความเสี่ยง
* อายุยิ่งมากยิ่งเสี่ยง มะเร็งเต้านมพบในผู้หญิงได้มากกว่าผู้ชาย 100 เท่าก็จริง แต่ถ้าคุณสร้างปัจจัยเสี่ยงโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ก็อาจตกเป็นหนึ่งในส่วนน้อยที่มีโรคร้ายและปัจจัยเสี่ยงมะเร็งเต้านมในผู้ชาย ได้แก่ อายุที่มากขึ้นโดยเฉพาะหนุ่มๆ ในช่วง 60-70 ปี

* กรรมพันธุ์เป็นสิ่งสำคัญ ในกลุ่มชายที่เป็นมะเร็งเต้านมพบว่ามีมากถึง 20% ที่เป็นโรคจากการมีบุคคลในครอบครัวทั้งฝ่ายชาย หรือฝ่ายหญิงที่มีประวัติการเป็นมะเร็งเต้านม

* สาเหตุอื่นๆ ที่ควรระวัง นอกจากนี้ มะเร็งเต้านมยังอาจเกิดได้จากอีกหลายสาเหตุย่อย อาทิ เคยมีประวัติฉายแสงบริเวณส่วนอก เช่น เป็นมะเร็งอย่างอื่นมาก่อน ฯลฯมี DNA ผิดปกติ เช่น มียีนส์มะเร็ง BRCA1, BRCA2 ฯลฯซึ่งพบบ่อยในคนที่มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งก่อน 60 ปีตับมีปัญหา เช่น ตับแข็ง ฯลฯ ทำให้ระดับฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มขึ้น และเสี่ยงมะเร็งเพิ่มขึ้น ได้รับฮอร์โมนเพศหญิง เช่นหลังแปลงเพศ หรือตัดอัณฑะ น้ำหนักเกินหรืออ้วนทำให้เนื้อเยื่อไขมันมีมากขึ้น และทำงานโดยเปลี่ยนฮอร์โมนเพศชายให้กลายเป็นฮอร์โมนเพศหญิงเพิ่มขึ้น ดื่มแอลกอฮอล์หนัก

คุณกำลังเป็นมะเร็งเต้านมหรือเปล่า
อาการที่พบบ่อยของมะเร็งเต้านมผู้ชาย ได้แก่ มีก้อนของเหลวออกจากหัวนม หัวนมหรือเต้านมแดง หัวนมหรือผิวหนังยุบ บุ๋มเข้าไปด้านใน วิธีตรวจคัดกรองที่ดีคือตรวจเต้านมด้วยตนเองทุกเดือนหลังอายุ 40 ปี และสังเกตอาการต่อไปนี้ มีของเหลวออกจากหัวนม ที่พบบ่อยคือ เป็นน้ำปนเลือด คลำได้ก้อนที่เต้านมหรือเต้านมบวม หัวนมผลุบเข้า หรือบุ๋มเข้าใน เต้านมหรือหัวนมแดง หรือมีขุยขรุขระบนหัวนม ถ้ามีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือมากกว่าควรรีบปรึกษาหมอใกล้บ้าน

ปัจจุบันโรคมะเร็งเต้านมในผู้ชายพบมากขึ้น เนื่องจากคนส่วนใหญ่ล้วนมีน้ำหนักเกินมาตรฐานดังนั้นวิธีป้องกันที่ดีคือ การหมั่นสำรวจความผิดปกติของเต้านม และลดปัจจัยเสี่ยงด้วยการออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำระวังอย่าให้น้ำหนักเกินหรืออ้วน และไม่ดื่มหนัก



*******************************



6 บัญญัติ! รักเขาด้วยความเข้าใจ




พื้นฐานสำคัญของความรักที่เรียกว่าความเข้าใจ มันฟังง่ายแต่ทำยากเหลือเกิน เพราะใจของแต่ละคนก็คิดกันคนละอย่าง บางคนเข้าใจได้ง่ายเพราะสื่อสารออกมา แต่บางคนปิดปากเงียบ แม้ว่าเรื่องปลีกย่อยหลายเรื่องใความเป็นตัวตนของหนุ่มที่คุณคบจะต้องใช้เวลาและความใกล้ชิด แต่ที่จริงก็มีอีกหลายเรื่องที่สามารถใช้พฤติกรรมมาตรฐานทำความเข้าใจเขาได้ง่ายๆ และนี่คือ 6 เรื่องของผู้ชายที่ผู้หญิงควรรู้
1* คะแนนติดลบในขณะที่ความโกรธของผู้หญิงสามรถสูญสลายได้ทันใจ แค่เขายื่นดอกไม้ให้ช่อเดียวแต่ผู้ชายใจแคบ กว่านั้น เขาจริงจังกับความเจ็บมากกว่าและไม่ว่าคุณจะทำดีสักแค่ไหน และเขาออาจเอ่ยปากให้อภัยไปแล้วแต่คะแนนติดลบของคุณก็ยังฝังหุ่นอยู่ในใจของเขาตลอดเวลา เพราะฉะนั้นวิธีการที่คุณจะเรียกร้องความสนใจด้วยการทำให้หนุ่มๆ หึง หรือเจ็บปวด อย่าใช้เป็นดีที่สุด เพราะจะได้ไม่คุ้มเสีย ใช้มารยาหญิง ออดอ้อนดีกว่า น่ารักน่าใคร่กว่าเยอะ
2*ความเงียบไม่ใช่ไม่สนใจผู้ชาย เป็นพวกที่มีนิสัยคิดอะไรเป็นอย่างๆและเมื่อเขาคิดเขาจะเงียบตัดขาดการรับรูใดๆ หากบังเอิญว่าคุณกำลังเล่า หรือพรรณนาเรื่องราวต่างๆ แล้วเขาไร้รีแอคชั่นใดๆ อย่าเพิ่งงอน หรือคิดเตลิดไปไกล เพราะที่จริงแล้วเขาไม่ได้ตั้งใจ เพียงแต่กำลังขบคิดสิ่งที่ค้างใจไม่เสร็จ วิธีแก้ก็คือควรนั่งเงียบ หรือหาอย่างอื่นทำให้ชิลๆ เมื่อเขารู้ตัว หรือเคลียร์ปัญหาได้แล้วก็จะกลับมาเอง
3* ศักดิ์ศรีสำคัญกว่าการแก้ปัญหาเสียทองเท่าฝูงกาไม่ยอมเสียหน้าให้ใคร นี่คือหนึ่งในปรัชญาของผู้ชาย เพราะเขาหาความภาคภูมิใจจากศักดิ์ศรี ดังนั้นไม่ว่าเขาจะทำอะไรที่งี่เง่า หรือยิ่งทำยิ่งผิด ก็ต้องทำใจ แต่อย่าได้แสล๋นไปบอก สั่ง หรือแนะนำแบบตรงๆ เด็ดขาด เพราะเขาจะยิ่งทำหนักขึ้น และคุณก็จะยิ่งโกรธเขามากขึ้น มีคำกล่าวว่าผู้ชายเป็นหัว ผู้หญิงเป็นคอ ทำอะไรก็ได้ให้เขาคิดว่าหัวหันไปทางไหนก็เพราะหัวคิด ทั้งที่จริงคอต่างหากที่เป็นตัวหมุนทิศทาง ใช้ความอ่อนโยน และวิธีการอันแยบยลคอนโทรลเขาโดยให้คิดว่าทั้งหมดเกิดจากความคิดของเขาดีกว่า
4* เฉไฉฆ่าเวลา ในขณะที่ผู้หญิงจะนั่งหมกมุ่นคิดแก้ปัญหาอะไรก็ตาม ต่อให้คิดไม่ออกก็ต้องบ่นๆๆๆ หรือเครียดจนไม่มีอันทำอะไร แต่ผู้ชายจะมีวิธีการที่แตกต่างไปกว่านั้น เขาอาจไม่บ่น แถมยังทำเหมือนไม่สนใจอะไรด้วย จนน่าหมั่นไส้ เผลอๆ ก็ออกไปตีกอล์ฟ หรือนัดเพื่อนกินเหล้า ใครเคยกรี๊ดกับอาการแบบนี้ เลิกเหอะ เพราะไม่ใช่ว่าเขาไม่ใส่ใจ แต่มันเป็นวิธีของผู้ชายที่จะเฉไฉทำอย่างอื่น เหมือนกับเอาตัวเองออกมานอกวงปัญหา เพื่อให้ได้มุมมองใหม่ในการแก้ปัญหาต่างหาก คำแนะนำคือ ปล่อยเขาไป เดี๋ยวคิดออกเอง หรือถ้าคิดไม่ออกจริงๆ เขาก็จะมาปรึกษากับเราเอง อย่าไปหาเรื่องทะเลาะ หรือสร้างแรงกดดันเลย
5* พูดเหมือนกันแต่คนละความหมาย ในขณะที่คำพูดของผู้หญิงเกือบทั้งหมดมีลักษณะกินนัยเพื่อแสดงอารมณ์ หรือเรียกร้องความสนใจ แต่คำพูดของผู้ชายจะสื่อตรงตามคำพูดไม่ยอกย้อน ดังนั้นถ้าเขาติติง หรือไม่ชอบอะไร ก็หมายความว่าเขาไม่พึงใจในสิ่งที่กล่าวจริงๆ ถ้าคุณไม่เห็นด้วยก็ควรใจเย็นๆ แล้วพูดคุยด้วยเหตุผล การประชดประชันไม่ได้ช่วยแก้แต่ยิ่งขยายปัญหา และในทางกลับกัน คุณควรหลีกเลี่ยงการพูดประชดประชัน หรือใช้คำพูดในแง่ลบแอบแฝงอยู่เสมอๆ เพราะมันเหมือนเป็นการตอกย้ำให้เขาคิดตามคำพูดของคุณโดยไม่ตีความ เช่น การท้าให้เลิกบ่อยๆ เพราะน้อยใจ อาจนำไปสู่การขอเลิกจริงๆ โดยไม่คิดว่าที่จริงแล้วคุณน้อยใจ แต่ไม่มีความสุขกับการอยู่ด้วยกัน
6* อิสระเหนืออื่นใด มุมมองของผู้หญิงคือการทุ่มเททุกอย่างให้ผู้ชาย แต่สำหรับผู้ชายแล้ว เขาไม่สามารถทำแบบนี้ได้เหมือนผู้หญิง แต่เลือกจะให้สิ่งสำคัญเป็นเรื่องๆ เช่นให้ความปลอดภัย การดูแลความมั่นคง โดยคิดเอาเองว่าเขามีสิทธิ์ชอบธรรมที่จะให้สิ่งสำคัญหลักๆ และมีอิสระในตัวเองด้วยการหาความสุขแบบส่วนตัวอย่างอิสระควบคู่ไปด้วย เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา หากสิ่งที่เขาทำ ไม่ได้เป็นการนอกใจ คุณก็ควรผ่อนปรนลงบ้าง และใช้เวลากับการหาความสุขเบาๆ ให้ตัวเองด้วย จะดีกว่าการคัดค้าน





********************************


Brown Classic









Brown Classic

สีน้ำตาลเป็นสีที่เกิดขึ้นจากพลังธรรมชาติ ซึ่งสร้างความอบอุ่นให้กับบุคคลที่สวมใส่เสื้อสีนี้ และยังเป็นสีที่ช่วยสร้างการมองโลกในแง่ดีให้เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นคุณสาวๆ WP ทุกคนอย่ารีรอ รีบมาสวมใส่เสื้อสีน้ำตาลสุดแสนจะคลาสสิกกันดีกว่าค่ะ


- เสื้อแขนกุดสีไข่ไก่ พร้อมสร้อยดีไซน์เก๋ จากร้านWIP CREAM ราคา 1,350 บาท
- กางเกงหนังสีน้ำตาล จาก Top Shop สอบถามราคาที่ร้าน
- กระเป๋า Beatice Tote ราคา 54,900 บาท
- เสื้อสายเดี่ยวผ้าชีฟอง จาก Babydoll for Summer No.2 ราคา 2,200 บาท
- ชุดเสื้อต่อกับกางเกง สีน้ำตาล จากร้าน Ch?rir ราคา 4,380 บาท
- ต่างหูสีเขียวประกายเพชรจาก Mutant Doll โทร. 084-004-7725 ราคา 20 บาท
- รองเท้าหนังสีน้ำตาล จาก Top Shop สอบถามราคาที่ร้าน

******************************************************




วิธีการออมเงินอย่างง่าย

ในเวลาปัจจุบัน เงินเป็นปัจจัยจำเป็นสำหรับคนทุกคน เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ หากเราใช้ไปโดยไม่ยั้งคิดหรือฟุ้มเฟือย ปัจจัยชนิดนี้ก็จะหมดไปโดยฝากความลำบากไว้ให้กับเราในอนาคต ดังนั้นการออมเงินจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องปฏิบัติให้สม่ำเสมอ ควรปลูกฝังการประหยัดเงินตั้งแต่อายุน้อยเพื่ออนาคตจะได้ไม่ต้องพบเจอกับเจ้าปีศาจที่ไม่เป็นที่ประสงค์ของคนทุกคนคือ ความจนกับความลำบาก นั้นเอง


วิธีการในการออมเงิน สามารถทำได้ดังนี้


1. ลงทุนซื้อกระปุกออมสินมาวางไว้ในที่ที่พบเห็นบ่อยครั้ง เช่น โต๊ะทำงาน ข้างเครื่องคอมพิวเตอร์ บนหัวเตียง ข้างรูปสุดที่รัก หรือแม้แต่หน้าห้องอาบน้ำ เป็นต้น เลือกเอาที่ใดที่หนึ่ง เพื่อเป็นการฝึกนิสัยการออม โดยจะได้ไม่ลืมใช้เงินอย่างฟุ้มเฟือยและหยอดออมสินทุกครั้งที่มีเงินเหลือ


2. หัดรู้จักคำว่าความจำเป็นกับน่ารักเพราะของทุกอย่างล้วนมีระดับความจำเป็นไม่เท่ากัน การซื้อโดยคำนึงแต่คำว่าน่ารักแล้วอยากได้อย่างเดียวนั้นไม่พอดังนั้นจึงควรคิดพิจารณาก่อนหยิบยื่นตรงแคชเชียร์ทุกครั้ง จะได้ไม่เสียใจเมื่อซื้อในภายหลัง เว้นแต่ว่าของสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่อยากได้จริงๆ เห็นสิ่งอื่นๆที่สวยกว่าเราไม่สนและเหมาะสมกับสภาพเงินที่มีก็สมควรซื่อได้เพื่อสนองความต้องการ


3. วิธีนี้สำหรับคนที่ชอบจดชอบเขียนคือทำแบบบันทึกรายรับรายจ่ายอาจทำเป็นสมุดเล่มเล็กเพื่อพกพาไปได้ทุกที่ จ่ายอะไรไปก็จดไว้ ได้มายังไงก็จดไป พอครบกำหนดก็รวมรายรับรายจ่าย วิธีนี้สามารถตรวจต่อมความฟุ้มเฟือยของเราได้เป็นอย่างดี

4. หากรู้ตัวว่าต้องไปในที่ๆมีแต่ของฟุ้มเฟือย แพงหูฉีกจนแม้แต่เกิดใหม่ซักกี่ชาติก็ไม่สามารถหาตังค์มาซื้อได้ให้ท่านยืนสงบนิ่งซักแป็บ แล้วเงินทั้งหมดออกจากกระเป๋า จะได้ไม่ต้องพกให้เมื่อยกุงเกงแถมประหยัดอีกต่างหาก




5. ซื้อกระเป๋าที่มีช่องลับเยอะๆสำหรับพกไปเดินห้างสรรพสินค้าที่มีแต่ของสุรุ่ยสุร่าย เอาไว้ซ่อนเงินแล้วเวลาเกิดอยากได้อะไร พอเปิดกระเป๋าก็จะหาไม่เจอ ไม่ต้องจ่าย ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องเสียเงิน ประหยัดแบบวัยรุ่นยุคใหม่ ได้ทั้งความเท่ ประหยัดและปลอดภัยจากมิจฉาชีพ (แต่ต้องไม่ซ่อนจนลืมที่ซ่อนนะ)

6. เอาเงินไปฝากธนาคารแบบฝากประจำ อันนี้เป็นวิธีที่หลายคนนิยม ปลอดภัยสุดๆเมื่อเม็ดเงินของคุณถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีในตู้นิรภัยหนากว่าฟุต



7. ฝึกทำงานพิเศษ หารายได้ด้วยตนเองโดยไม่ง้อแบเงินขอพ่อแม่ให้ลำบากท่าน วิธีนี้เหมาะที่สุดสำหรับนักศึกษาทั้งที่เรียนอยู่และจบทำงานแล้ว เพื่อฝึกให้เห็นถึงความลำบากของการหาเงินและคุณค่าของเงินที่หลายคนหลงลืมไป


8. ซื้อของลดราคา สามารถหาได้ง่ายตามศูนย์การค้าทั่วไป (แม้แต่คนเขียนยังชอบ)


9. เอาล่ะสิ วิธีนี้เหมาะกับแม่บ้านหัวไวหรืออนาคตนักคณิตศาสตร์โดยเฉพาะ คิดเลขเร็วไง...เวลาซื้ออะไรก็รวมรายจ่ายไว้ในสมอง ใช้ประกอบกับข้อสองวิธีนี้ก็จะศักดิ์สิทธิ์ยิ่งขึ้น เผลอๆโตขึ้นได้ติดอันดับกินเนสบุคด้านคิดเลขเร็ว



10. อย่าหลงคำโฆษณาชวนเชื่อจากปากโฆษกขี้โว (ขี้โม้) โดยเฉพาะอย่างยิ่งพวกชอบชวนคุยและพวกที่ยิ่งคุยเข้าหูเราก็ยิ่งต้องระวังกันใหญ่



11. ฝากเงินไว้ที่เพื่อน นัดเวลาเอาเงินคืน ถือเป็นATM เคลื่อนที่ไปในตัว แต่มีข้อแม้ว่าต้องเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ต่อเราจริงๆเดี๋ยวATMจะกลายเป็นตู้หยอดเหรียญแทน (ให้แล้วไม่ได้คืนอะดิ)



12. อยู่ว่างๆร้องเพลง "คนมีตังค์" ดังๆ ได้ทั้งความสนุก สู้ชีวิต เผลอๆได้ (เศษ) ตังค์จริงๆด้วย






อ่านต่อ :http://www.dek-d.com/board/view.php?id=979352#ixzz13F2FVzAc