Saturday 26 November 2011

เครื่องสำอางของคุณ หมดอายุหรือยัง?

สำหรับสาวๆ แล้ว "เครื่องสำอาง" เป็นเหมือนขนมหวาน เห็นเป็นไม่ได้จะต้องเข้าไปซื้อไปดู ก็เหมือนที่พี่โน้ส อุดม นม อุโดส เคยตั้งข้อสังเกตไว้ว่า มีก็มีแค่ปากเดียว จะซื้อลิปสติกไปทำอะไรนักหนาเยอะแยะ ชาตินี้จะทาหมดรึเปล่าก็ไม่รู้
แหม ก็ของแบบนี้มันเป็นความสุขเล็กๆ น้อยๆ ของผู้หญิงใช่รึเปล่าล่ะคะ ... น้องๆ บางคนซื้อเครื่องสำอางเพลินจนพอมารู้สึกตัวอีกทีก็มีเครื่องสำอางเต็มโต๊ะไปหมดแล้ว จนบางครั้งเราเผลอเก็บเครื่องสำอางเอาไว้นานจนเราลืมไปแล้ว พอค้นเจออีกทีหาดูวันหมดอายุก็หาไม่เจอ จำก็ไม่ได้ว่าซื้อมาตอนไหน จะให้ทิ้งไปก็เสียดาย


จุ๊ จุ๊ จุ๊ ความเสียดายนั่นแหละค่ะคือต้นต่อของอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับสาวๆ ... เชื่อเถอะค่ะว่าในโต๊ะเครื่องสำอางของเรามีเครื่องสำอางที่อาจจะหมดอายุแล้ววางอยู่มากมายเต็มโต๊ะ หรือบางครั้ง เครื่องสำอางบางชิ้นก็ไม่ได้ระบุวันหมดอายุเอาไว้ด้วยซ้ำ
น้องๆ ทราบรึเปล่าคะว่า การใช้เครื่องสำอางที่หมดอายุการใช้งานนั้น มีอันตรายมากกว่าที่เราคิดไว้ เพราะเครื่องสำอางที่หมดอายุการใช้งานแล้วนั้นถือว่าเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อโลกชั้นดี เป็นแหล่งสะสมแบคทีเรียมากมาย ... บางครั้ง อาจจะเป็นสิวโดยที่หาสาเหตุไม่ได้ ใครจะรู้ล่ะคะว่าต้นตอปัญหาที่แท้จริงแล้วอาจจะมาจากเครื่องสำอางที่หมดอายุการใช้งานแล้วก็ได้






วิธีการดูว่าเครื่องสำอางหมดอายุหรือยังนั้น น้องๆ สามารถสังเกตได้ 2 วิธีค่ะ คือการดมกลิ่น และการดูที่เนื้อครีม

การดมกลิ่น ถือว่าเป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลมากที่สุดค่ะ วิธีง่ายๆ ในการสังเกตว่าเครื่องสำอางหมดอายุคือ เวลาที่เราซื้อเครื่องสำอางมาใหม่ ให้เราลองดมกลิ่นดูว่ากลิ่นเป็นยังไง หลังจากนั้นก่อนจะจนหมดก็ให้ลองดมดูก่อนเพื่อนเปรียบเทียบกันว่ากลิ่นเปลี่ยนไปรึเปล่า โดยเฉพาะเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของน้ำมัน เมื่อหมดอายุแล้วจะมีกลิ่นเหม็นหืน

ส่วนเครื่องสำอางที่เป็นเนื้อครีม ให้น้องๆ สังเกตว่าถ้ามีการแบ่งตัวของเนื้อครีมและผลิตภัณฑ์ หรือมีเม็ดเหงื่อขึ้นแล้ว เราไม่ควรนำมาใช้ต่ออีก เพราะว่าเม็ดเหงื่อที่เราเห็นคือไขมันที่แตกตัวออกจากเนื้อครีมค่ะ ทิ้งลงถังขยะไปโลดค่ะ ห้ามใช้ต่อเด็ดขาด
นอกจากนี้แล้วเรื่องของการคำนวณระยะเวลาในการใช้ก็เป็นสามารถใช้เป็นสิ่งที่บอกวันหมดอายุได้เช่นกัน

สำหรับเครื่องสำอางประเภทที่ใช้บริเวณดวงตา เช่น อายชาโดว์ อายไลเนอร์ มีระยะเวลาหลังจากที่เปิดใช้แล้วประมาณ 3 - 6 เดือน เพราะเชื้อแบคทีเรียจะเข้าไปสะสมอยู่ในเครื่องสำอางเป็นจำนวนมาก ซึ่งสารกันบูดก็อาจไม่สามารถยับยั้งแบคทีเรียดังกล่าวได้ ซึ่งแบคทีเรียนี้อาจเป็นที่มาของโรคตาแดงได้ด้วย
ส่วนแป้งและรองพื้นควรจะทิ้งเมื่อเปิดใช้แล้วประมาณ 1 ปี เพราะหากนานกว่านั้นเมื่อนำมาใช้อาจทำให้ผิวหนังระคายเคือง เกิดเป็นจุดแดงเล็กๆ คล้ายสิว และอุปกรณ์แต่งหน้าก็ควรเปลี่ยนบ่อยๆ อย่างเช่นฟองน้ำที่ใช้ทารองพื้นควรเปลี่ยนหรือซักอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง

ลิปสติกก็เป็นเครื่องสำอางอีกชิ้นที่หลายคนอาจคิดไม่ถึงว่าเราไม่ควรใช้ร่วมกับคนอื่นที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่า การใช้ลิปสติกร่วมกันผู้อื่นนั้นอาจทำให้เราติดเชื้อไวรัสที่ทำให้เป็นโรคเริมได้
สำหรับอายุการใช้งานของลิปสติกนั้น ให้เราสังเกตว่าถ้าเริ่มมีเหงื่อหรือมีหยดน้ำเกาะที่เนื้อไม่ควรใช้แล้วนะคะ การใช้พู่กันทาปากจะช่วยยืดอายุการใช้งานให้มากขึ้น แถมยังเป็นการช่วยลดการสัมผัสระหว่างผิวกับเครื่องสำอางโดยตรง เพราะความร้อนและแบคทีเรียจากร่างกายจะส่งผลให้เครื่องสำอางหมดอายุเร็วขึ้น





No comments:

Post a Comment